พบซากปีกนกยุคไดโนเสาร์ในผลึกอำพัน
มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ National Geographic รายงานการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่มีความสมบูรณ์มากในผลึกอำพันที่มีอายุ 100 ล้านปี จากยุคครีเทเชียส
ผลึกอำพันที่ค้นพบนี้บรรจุข้อปีกของนกขนาดเล็กซึ่งสามารถระบุอายุย้อนไปยังช่วงท้ายของยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ ซึ่งเป็นการค้นพบนกขนาดเล็กเท่ากับที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นครั้งแรก
ผลึกอำพันที่ค้นพบนี้บรรจุข้อปีกของนกขนาดเล็กซึ่งสามารถระบุอายุย้อนไปยังช่วงท้ายของยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ ซึ่งเป็นการค้นพบนกขนาดเล็กเท่ากับที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นครั้งแรก
ทีมนักวิจัยระบุว่า จริงๆ แล้วมีการพบซากดึกดำบรรพ์ในอำพันบ่อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่มีสภาพสมบูรณ์ขนาดนี้ เพราะมีทั้งขน กระดูก และเนื้อเยื่อบางส่วน และสถานที่เดียวที่พบฟอสซิลยุคครีเทเชียสบ่อยที่สุดก็อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยเลย นั่นก็คือที่เมืองมิตจีนา รัฐคะฉิ่น ในประเทศเมียนมานี่เอง
แต่ว่าอำพันนั้นก็อย่างที่รู้กันดีว่า มันคืออัญมณีมีค่า เมื่อขุดพบก็จะถูกส่งไปขายให้กับนักสะสม นักออกแบบสินค้าแฟชั่น ซึ่งเพื่อนบ้านอย่างจีนรอซื้อในราคาไม่อั้น ยิ่งอำพันที่มีซากฟอสซิลยิ่งมีราคาแพง ดังนั้นจึงจำนวนน้อยครั้งมากที่อำพันสภาพดีๆ สมบูรณ์ๆ จะหลุดรอดมาถึงมือนักวิทยาศาสตร์ได้
ผลึกอำพันชิ้นที่ตกเป็นข่าวนี้ก็เช่นกัน แรกทีเดียวมันตกไปถึงมือของนักออกแบบอัญมณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมแปรรูปเป็นจี้ห้อยคาราคาแพง โดยตั้งชื่ออำพันก้อนนี้ว่า “ปีกนางฟ้า” หรือ Angel’s Wings แต่ได้ยกให้ทีมงานนักวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบก่อน เพราะในตลาดมืดของเมืองมิตจีนานั้น คนตาร้ายบางทีก็ได้ของปลอมไปบ้างก็มี
ปีกนางฟ้า
ปีกนางฟ้า
เจ้า “ปีกนางฟ้า” นี้สมกับเป็น “นางฟ้า” จริงๆ เพราะทำให้วงการวิทยาศาสตร์สัตว์โลกดึกดำบรรพ์ตื่นใจกับการค้นพบครั้งนี้มาก เพราะตั้งแต่เฟ้นหาและตรวจสอบมา ส่วนใหญ่ที่พบจะไม่สมบูรณ์ ทั้งจากตัวซากฟอสซิลเอง และจากการถูกทำลายระหว่างเจียระไนหรือการเข้าเรือน
ว่าแต่นอกจากยืนยันความเชื่อเรื่องมีสัตว์ปีกขนาดเล็กซึ่งน่าจะเป็นบรรพบุรุษของนกในปัจจุบันแล้ว คงไม่มีการสมคบคิดดึงเอาเนื้อเยื่อไปเพาะพันธุ์เป็นไดโดนกเหมือนอย่างหนังเรื่อง "จูราสิค พาร์ก” ด้วยหรอกนะครับ