ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดึกดำบรรพ์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดึกดำบรรพ์ แสดงบทความทั้งหมด

ลึกลับพบฟอสซิล นกดึกดำบรรพ์ อายุ 150 ล้านปี ที่จีน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ขุดค้นฟอสซิลนกดึกดำบรรพ์อายุกว่า 150 ปี  
ซึ่งทำให้ทราบถึงวิวัฒนาการของนกจากไดโนเสาร์มากขึ้น และยังรู้ด้วยว่านกบินได้อย่างไร

ค้นหา
Custom Search

ทั้งนี้ ฟอสซิลนกที่ค้นพบนี้ถูกตั้งชื่อว่า Aurornis หรือ นกรุ่งอรุณ ถูกค้นพบบในแผ่นหินดินดาน ที่แหล่งฟอสซิลของมณฑลเหลียวหนิงของจีน ความยาวตั้งแต่จงอยปากถึงหางคือ 50 เซนติเมตร
จัดอยู่ในสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์จำพวกนก และสายพันธุ์ที่มีความใกล้ชิด นับตั้งแต่เริ่มมีการแยกสายวิวัฒนาการออกจากสิ่งมีชีวิตในวงศ์ไดโนเสาร์


อย่างไรก็ตามการค้นพบฟอสซิลนกดึกดำบรรพ์นี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ จับกลุ่ม Archaeopteryx สัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนกสายพันธุ์แท้ชนิดแรก กลับมาไว้ในกลุ่มของสัตว์บินได้
ตามเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกจับกลุ่มให้อยู่ในพวกำสัตว์คล้ายนกที่บินไม่ได้

อาร์เจนทาวิส นกยักษ์ดึกดำบรรพ์ ที่มีขนาดพอๆ กับ เครื่องบินไอพ่นน้ำหนักเบา

🦅สัตว์โบราณที่สาบสูญ! ทำความรู้จัก ‘อาร์เจนทาวิส’
นกยักษ์ดึกดำบรรพ์ ที่มีขนาดพอๆ กับ ‘เครื่องบินไอพ่นน้ำหนักเบา’
รู้หรือไม่ว่า เมื่อนานมาแล้วโลกของเราเคยมีสิ่งมีชีวิตสุดอัศจรรย์ชนิดนี้อยู่!? เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีขนาดใหญ่โตอลังการและน่าทึ่งมาก ถ้าอยากรู้ว่าพวกมันคืออะไร เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลย

‘อาร์เจนทาวิส’ (Argentavis) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ ‘Argentavis magnificens’ คือชื่อของ ‘นกยักษ์โบราณ’  ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา เจ้านกยักษ์ชนิดนี้สูญพันธุ์ไปนานมากแล้ว โดยพวกมันเคยมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อราว 5-8 ล้านปีก่อน มีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีส 
ทวีปอเมริกาใต้ และในแถบที่ราบปัมปัส (Pampas) ประเทศอาร์เจนตินา

พวกมันเป็นนกที่มีขนาดมหึมามีน้ำหนักตัวมากถึง 68 กิโลกรัม และยิ่งในตอนที่พวกมันสยายปีกทั้งสองข้างออกพร้อมบินล่ะก็ ขนาดของปีกจากอีกฝั่งหนึ่งไปจรดอีกฝั่งหนึ่งนั้นมีความยาวมากถึง 7 เมตรเลยทีเดียว ถ้าเทียบแล้วพวกมันมีขนาดพอๆ กับเครื่องบินไลท์แอร์คราฟท์ หรือเครื่องบินไอพ่นน้ำหนักเบาก็ไม่ปาน!

ด้วยขนาดที่ใหญ่ยักษ์เช่นนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างสงสัยกันว่า เจ้านกอาร์เจนทาวิสสามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร และผู้ที่ไขปริศนาในข้อนี้ได้ก็คือทีมนักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสเทค
(Texas Tech University) รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการศึกษาและพบว่า เจ้านกอาร์เจนทาวิสจะบินขึ้นฟ้าได้ก็ต่อเมื่อมีสภาพอากาศที่เหมาะสมเท่านั้น 
กล่าวคือด้วยขนาดที่ใหญ่เช่นนี้ทำให้พวกมันชอบที่จะอยู่บนพื้นดินมากกว่า แต่ถ้าหากพวกมันจะบินก็ต้องรอให้มีลมหนุนและต้องบินลงจากที่สูง อย่างเช่นบนเทือกเขา หรือไม่หากบริเวณนั้นไม่มีเทือกเขาสูง พวกมันก็จะใช้วิธีวิ่งลงจากเนินเขาที่มีความชันประมาณ 10 องศาแทน ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพื่อจะได้มีพลังงานหนุนช่วยให้พวกมันมีแรงบินขึ้นสู่ฟากฟ้านั่นเอง
Argentavis
และเมื่อเจ้านกอาร์เจนทาวิสทะยานขึ้นสู่อากาศได้แล้ว พวกมันจะทำความเร็วได้ราว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในแต่ละวันพวกมันอาจจะบินไปได้ไกลถึง 300 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก! ลองคิดดูซิว่า ถ้าหากเจ้านกอาร์เจนทาวิสยังมีชีวิตอยู่ เราอาจจะได้เห็นพวกมันบินควบคู่มากับเครื่องบินขนาดเล็กในยุคปัจจุบันก็เป็นได้! เป็นภาพที่น่าทึ่งเกินกว่าจะจินตนาการได้จริงๆ
เรียบเรียง : S

รายการบล็อกของฉัน