นกเสียงดังที่สุดในโลก
จะทำการ “ระเบิดพลังเสียง”
125 db เพื่อจีบหญิงที่อยู่ข้าง ๆ
สำนักข่าว The Independent รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้
ค้นพบ “เสียงร้องของนกที่ดังที่สุด” เท่าที่เคยมีการบันทึก
ซึ่งมาจาก นกเบลเบิร์ด (Bellbird) โดยตัวผู้มักจะระเบิดพลังเสียงที่ดังกว่า 116 เดซิเบล (dB) แต่เคยวัดได้ดังสุด 125 เดซิเบล เพื่อให้ตัวเมียได้ยิน เป็นอีก 1 วิธี ของการหาคู่ผสมพันธุ์
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลักผมขอบอกก่อนว่า ที่ทุกคนเห็นเส้นยาว ๆ ตรงปากของมันไม่ใช่หนอนนะครับ แต่คือหนวดของมันต่างหาก ถือเป็นลักษณะเด่นของนกสายพันธุ์นี้เลย ซึ่งมีอีกชนิดที่มี 3 หนวดด้วยนะ ชื่อว่า Three-wattled Belbird โคตรเท่เลยครับ
ว่าแต่ … มันดังถึงขนาดต้องนำมาเขียนเป็นบทความเลยหรอ ?
เมื่อปี 1972 คอนเสิร์ตของวงร็อค Deep Purple ที่ในตอนนั้นได้รับการบันทึกว่าเป็น วงดนตรีที่เล่นคอนเสิร์ตเสียงดังสนั่นที่สุดในโลก ด้วยความดัง 117 เดซิเบล ดังถึงขนาดที่ว่าทำให้แฟนเพลง 3 คน สลบระหว่างชมคอนเสิร์ตได้เลย
ทีเดียว
และสำหรับเจ้านกชนิดนี้ นักวิจัยได้พูดถึงมันว่า – “เป็นสิ่งที่น่าฉงน
จริง ๆ แม้พวกมันจะเกิดมามีพรสวรรค์ด้านการขับร้อง แต่ก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องปล่อยพลังออกมาสุดเสียง เพราะตัวเมียก็ไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้น และการที่พวกมันเปล่งเสียงออกมาดังในระดับนั้น ก็สร้างความอันตรายแก่หูของพวกมันเองได้ นั่นแหละ นี่คือสิ่งที่พวกเรากำลังหาคำตอบกันอยู่ว่าทำไมพวกมันต้องโชว์พาวกันขนาดนั้น”
ดร. เจฟฟ์ โพดอส นักชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิสต์ ให้คำตอบถึงคำถามที่ชวนสงสัยนี้ว่า – “แม้คำถามข้างต้นจะชวนสงสัย แต่ผมเชื่อว่านกตัวเมียยอมเสี่ยงที่จะฟังเสียงดัง ๆ เพื่อที่จะได้รับรู้ศักยภาพของนกตัวผู้ที่จะมาเป็นคู่ของมันก่อนที่จะเริ่มผสมพันธุ์กันจริง ๆ
เราโชคดีที่ได้เห็นนกตัวเมียเข้าไปหาตัวผู้ ตอนนั้นเราเห็นตัวผู้เปล่งเสียงที่ดังสุด ๆ ออกมา ซึ่งดูเหมือนพวกมันพยายามอย่างมากที่จะระเบิดโน้ตตัวสุดท้ายของเพลงเพื่อให้ตัวเมียได้รับรู้ว่ามันโดดเด่นกว่านกตัวอื่น ๆ”
แม้นกเบลเบิร์ดจะมีน้ำหนักเพียง 250 กรัม แต่เสียงของพวกมันกลับดังกว่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ทั้งวัว กระทิง และลิงฮาวเลอร์ อย่างไรก็ดี เสียงของนกเบลเบิร์ดยังแพ้วาฬสเปิร์มที่สามารถส่งเสียงร้องที่ดังถึง 230 เดซิเบล ขณะที่วัดในระยะห่าง 500 ไมล์
นอกจากนี้ นักวิจัยยังทำการศึกษาทางด้านชีววิทยาของนกชนิดนี้ด้วย เช่น การหายใจของกล้ามเนื้อ ขนาดหัว ขนาดจะงอยปาก และรูปร่างของลิ้น เพื่อตรวจสอบดูว่าสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการส่งเสียงของมันอย่างไรบ้าง ?
“เราไม่รู้ว่าสัตว์ที่ตัวเล็กขนาดนี้ ส่งเสียงดังมากขนาดนี้ได้ยังไง เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำความเข้าใจความหลากหลายทางชีวภาพนี้” – ดร. เจฟฟ์ โพดอส กล่าว
Fact – เสียงเพลงในผับ เสียงคอนเสิร์ตร็อค เสียงเครื่องบินเจ็ต
เสียงเหล่านี้มีช่วงความดังอยู่ที่ 110-140 dB ซึ่งเราไม่ควรได้ยินนานเกิน 1-2 ชม. ไม่งั้นจะเริ่มปวดหูได้